29498128_1705770592793259_6443139599408414630_n_jb7h.jpg

แพทย์แนะให้คนไทยตื่นตัวโรคความดันโลหิตสูง

16 พ.ค. 2561 | 10:11:07

แพทย์แนะให้คนไทยตื่นตัวโรคความดันโลหิตสูง

กรมการแพทย์เผยโรคความดันโลหิตสูงเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวาย และโรคหัวใจ ส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้ ชวนประชาชนใส่ใจสุขภาพและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคความดันโลหิตสูง เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญในระดับประเทศและระดับโลก สมาพันธ์ความดันโลหิตสูงโลกและสมาคมโรคความดันโลหิตสูง

นานาชาติ จึงกำหนดให้วันที่ 17 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น “วันความดันโลหิตสูงโลก” 
(World Hypertension Day) เพื่อให้ประชากรทั่วโลกมีความตระหนักต่อโรคความดันโลหิตสูง เพราะโรคนี้เป็นภัยเงียบโดยทั่วไปผู้ป่วยจะไม่มีสัญญาณเตือนหรือแสดงอาการให้เห็นชัดเจนในช่วงแรก

แต่เกิดอาการก็ต่อเมื่อเข้าสู่ระยะสุดท้ายที่มีโรคแทรกซ้อนแล้ว โดยจะมีอาการปวดศีรษะ วิงเวียน ตาพร่ามัว อ่อนเพลีย เหนื่อย นอนไม่หลับ หัวใจเต้นผิดปกติ

นำไปสู่ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจวาย หลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน ไตเสื่อม เส้นเลือดในสมองแตกทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต หรืออันตรายถึงชีวิต

ความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ พบได้ถึงร้อยละ 80-90 อาจเกิดจากพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม หรือปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น ความอ้วน การรับประทานอาหารรสเค็มจัด ความเครียด ขาดการ ออกกำลังกาย การตั้งครรภ์บ่อยครั้ง โรคเบาหวาน การรับประทานยาคุมกำเนิด

นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุแต่สามารถป้องกันได้

โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ความดันโลหิตสูง

-ควรตรวจเช็คร่างกายและวัดความดันโลหิตเป็นประจำ

-พยายามควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วน

-ไม่รับประทานอาหารรสเค็มจัด

-รับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ

-ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

-พักผ่อนให้เพียงพอ

-ลดความเครียด ความวิตกกังวล

-ทำกิจกรรมที่รู้สึกผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง รดน้ำต้นไม้ อ่านหนังสือ งดบุหรี่และสุรา

ทั้งนี้ หากพบว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงควรรักษากับแพทย์อย่างต่อเนื่องเพราะโรคนี้เป็นโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หาย แต่สามารถควบคุมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้

 

ขอขอบคุณที่มาจาก:สวพ.

ใส่ความเห็น