โรคเบาหวาน แบบคนผอม
เบาหวาน ไม่จำเป็นต้องอ้วน คนผอมก็เป็น โรคเบาหวานได้
เบาหวาน เกิดจากภาวะขาดสมดุลของฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลได้ หรือใช้ได้ไม่เต็มที่ น้ำตาลที่เข้าไปในร่างกายจึงไปอยู่ในกระแสเลือดสูงผิดปกติ ก่อให้เกิดอาการผิดปกติ อีกมากมายตามมา เบาหวาน เป็นโรคเรื้อรัง ต้องรักษาต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือเรื่อยไป
โรคเบาหวาน กับการรักษา เบาหวาน ขั้นตอนแรก คือการตรวจวัดระดับน้ำตาลในร่างกาย เป็นประจำ โดยการเจาะเลือด จะทำให้เรารู้สภาพของร่างกายตัวเราเอง และสามารถดูแลควบคุม ระดับน้ำตาล ไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป
โรคเบาหวาน กับการตรวจเลือด ในคนปกติ จะมีค่าน้ำตาลในกระแสเลือด 60-120 มก. : เลือด 100 มก. ถ้าเราตรวจวัดแล้วมีระดับน้ำตาลในเลือด 140 – 200 มก. : เลือด 100 มก. ถือว่าเป็นเบาหวาน เพียงเล็กน้อย และอาจจะไม่มีอาการผิดปกติแสดงให้เห็น ในรายที่มีระดับน้ำตาลสูงกว่านี้ จะมีอาการแสดงให้เห็นเช่นปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะออกมาครั้งละมากๆ กระหายน้ำบ่อย ดื่มน้ำมาก กินข้าวจุ อ่อนเพลีย ปัสสาวะมีมดขึ้น เป็นต้น การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดถ้าพบว่ามีตัวเลข ค่าสูงเท่าใดก็แสดงว่าอาการของโรคเบาหวานรุนแรงเท่านั้น หากเราสามารถ ดูแลรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ จะสามารถลดอาการแทรกซ้อน ซึ่งน่ากลัวและอันตรายได้
โรคเบาหวาน กับอาการข้างเคียง เมื่อเป็นเบาหวานนานๆจะส่งผลต่อระบบอื่นๆในร่างกาย
เบาหวาน ส่งผลต่อไต – ต่อไปจะทำงานหนักในการขับน้ำตาลออกจากร่างกาย เมื่อไตทำงานหนักจะมีอาการบวมและภาวะซีดตามมา
เบาหวาน ส่งผลต่อหลอดเลือดแดงตีบตัน – น้ำตาลในร่างกายที่มีมากเกินไปจะไปจับตัวที่ผนังหลอดเลือด ทำให้มีอาการชาที่ปลายมือปลายเท้า ปวดกล้ามเนื้อ มีแผลเรื้อรังที่เท้าและหายากปวดปลายนิ้วเท้าในตอนกลางคืนเป็นโรคหัวใจ มีความดันผิดปกติมีอาการวิงเวียน
เบาหวาน ส่งผลถึงดวงตาให้บอดได้ – เนื่องจากปลายประสาทตาอักเสบต่อเนื่องนั่นเอง
เบาหวาน ส่งผลให้ผู้ป่วยเบาหวานติดเชื้อได้ง่าย – ส่งผลต่อกรวยไตให้เกิดการอักเสบและเป็นแผลเรื้อรัง
เบาหวาน กับคนที่ไม่อ้วนจะมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานได้อย่างไร?
– เกิดสาเหตุที่ทำให้อินซูลินอยู่ในภาวะที่ไม่สมดุล เช่นตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ไม่ดี ก็เป็นเหตุทำให้ เราเป็นเบาหวานได้ โดยไม่จำเป็นต้องอ้วน
– พ่อแม่หรือญาติพี่น้องเป็นโรคเบาหวาน
– ใช้ยาบางชนิด สเตียรอยด์ ยาคุมกำเนิด ยาขับปัสสาวะ เป็นประจำ ซึ่งสาเหตุนี้ ทำให้ร่างกายมีการสร้างน้ำตาลมากขึ้น หรือทำให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดี
– อายุที่มากขึ้น ตับอ่อนทำงานได้ไม่ดี ทำให้มีการสังเคราะห์อินซูลินได้น้อยลง
– ติดเชื้อไวรัสบางชนิดเช่น หัด หัดเยอรมัน คางทูม หรือเชื่อที่มีผลต่อตับอ่อน
– ตั้งครรภ์บ่อย ในช่วงที่ตั้งครรภ์ ร่างกายจะมีการสร้างฮอร์โมน จากโรคหลายชนิดซึ่งมีผลยับยั้งการทำงานของอินซูลินได้
ดังนั้นคนไม่อ้วนจึงมีโอกาสเป็น เบาหวาน ได้เหมือนกัน
โรคเบาหวาน ทำให้ผอม
เบาหวานทำให้ผอมหรือบางทีคนที่เป็นเบาหวานก็ผอมลงได้เนื่องจากร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลมาเผาผลาญเป็นพลังงาน ร่างกายจึงหันมาเผาผลาญกล้ามเนื้อและไขมันแทน ทำให้คนเป็นเบาหวานผอมลง ไม่มีไขมันไม่มีกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อฝ่อลีบ เพลียและอ่อนแรง
โรคเบาหวานไม่หายขาด แต่ก็ทำให้ ไม่ลุกลามเป็นโรคอื่นๆได้ การดูแลให้ร่างกาย มีภาวะสมดุลของผู้ป่วยเบาหวาน
โรคเบาหวาน กับการปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โรคเบาหวาน ควบคุมได้ด้วยการปรับสมดุลของร่างกาย
ผลงานวิจัย Operation BIM กับผู้ป่วยเบาหวาน ศึกษาพบว่า?
ในผู้ป่วยเบาหวาน เม็ดเลือดขาวหลั่งสาร TNF-α, IFN-γ และ IL-17 มากไปจนเกินความสมดุล
โดย TNF-α และ IFN-γ
จะเข้าไปทำลายเบต้าเซลล์ในตับอ่อน จนทำให้ สร้างอินซูลินได้น้อยลง (เบาหวานชนิดที่ 1)
และสารทั้งสองนี้ยังทำให้เกิดสภาวะดื้อต่ออินซูลินของเซลล์ (เบาหวานชนิดที่ 2) ส่วน IL-17 จะทำให้สภาวะการแพ้ภูมิตัวเองรุนแรงขึ้นจึงทำให้เบาหวาน เป็นอาการหนึ่งของการแพ้ภูมิตัวเองรุนแรงขึ้นด้วย
คณะนักวิจัย Operation bim จากศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทยได้ริเริ่มแนวทางใหม่ ด้วยการใช้อาหารสร้างภูมิคุ้มกันให้สมดุลเพื่อป้องกันโรคภัย ด้วยการนำสาร GM-1อันทรงคุณค่า เสริมฤทธิ์ด้วยสารสกัดจากธัญพืช และผลไม้ มังคุด ถั่วเหลือง งาดำ ฝรั่ง และใบบัวบก
จากการศึกษาอย่างต่อเนื่องพบว่า สูตรอาหารนี้มีประสิทธิภาพสูงในการปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุลจึงได้ตั้งชื่อสูตรอาหารนี้ว่า “BIM ซึ่งย่อมาจาก Balancing Immunity (ภูมิคุ้มกันที่สมดุล)” นำเสนอผลงานวิจัยนี้ ในที่ประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์ทั้งในและต่างประเทศ
ผลจากการทดสอบผลงานวิจัย operation bim ต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้สามารถอธิบายประสิทธิภาพของผลงานวิจัย operation bim ในการสร้างสมดุลของภูมิคุ้มกันตามหลักภูมิคุ้มกันวิทยาล่าสุด
BIM ย่อมาจาก Balancing Immunity คือการดูแลภูมิคุ้มกันของเราให้อยู่ในสภาพที่สมดุลไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไปให้พอเหมาะพอดีนั้นเอง
“การสร้างภูมิสมดุลเป็นมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพ”
โรคเบาหวาน กับการดูแลตัวเองในวิถีชีวิตประจำวัน
– ควรกินอาหารให้ตรงเวลา เพราะอาจจะทำให้ร่างกายขาดน้ำตาล มีอาการใจสั่นและวิงเวียนได้
– งดขนมและผลไม้ที่มีรสหวานจัด รวมทั้ง ห้ามกินของหวานมาก
– งดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก เช่นเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง น้ำอัดลม
– งดบุหรี่ เพราะบุหรี่จะทำให้ผนังหลอดเลือดแดงแข็ง ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายมาก
– งดอาหารสำเร็จรูป อาหารรสเค็มจัด เพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก
– ออกกำลังกายเยอะด้วย อย่างเหมาะสม สม่ําเสมอ
– นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
– หลีกเลี่ยงความเครียดทั้งมวล รวมถึงความวิตกกังวลต่างๆ
– และตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อดูน้ำตาลสะสมเดือนละครั้ง
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bim100icon.com
ศึกษาดูวีดีโอได้ที่ https://www.youtube.com